MTS Help Center

• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน โดยได้รับแรงหนุนจากอัราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มสูงขึ้น หลังถ้อยแถลงของนายสตีเวน มนูชิน เลขาธิการกระทรวงการคลังสหรํฐฯที่กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการในการออกพันธบัตรระยะยาวฉบับพิเศษ

ค่าเงินเยนทรงตัวบริเวณ 111.90 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดบริเวณ 111.985 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 31 มีนาคม ด้านค่าเงินยูโรปรับตัวขึน 0.15% ที่ระดับ 1.0914 ดอลลาร์/ยูโร

หลังจากที่ปรับตัวขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนครึ่งบริเวณ 1.0951 ดอลลาร์/ยูโรในสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับดัชนีดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่บริเวณ 99.050 จุด

• ดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนประจำเดือนเมษายนที่ผ่านมา ออกมาลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ที่ระดับ 50.3ท่ามกลางปริมาณอุปสงค์ทั้งในและนอกประเทศที่ลดลง จึงหนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจจีนเริ่มทรงตัวอยู่ในระดับปานกลาง หลังจากเศรษฐกิจเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งเมื่อช่วงต้นปี 2017

• เฟดน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ เนื่องจากต้องพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติม อย่างไรก็ดีเฟดอาจจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิถุนายนนี้ ทั้งนี้ เฟดจะเผยรายงานการประชุมในวันพฤหัสบดี เวลาประมาณ 11.00น. ตามเวลาประเทศไทย

• เกาหลีเหนือกล่าวโทษสหรัฐฯฐานเป็นผู้ยุยงให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ หลังสหรัฐฯส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดจำนวน 2 ลำ บินผ่านใกล้อาณาเขตเกาหลีเหนือ ขณะที่ทำการซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้

• โพลสำรวจคะแนนความนิยมผู้ลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสโดย BBC พบว่า นายเอ็มมานูเอล มาครอง มีโอกาสคว้าชัยชนะเหนือนางมารีน เลอ แปน ในการเลือกตั้งรอบที่ 2 วันที่ 7 พฤษภาคมนี้ โดยมีคะแนนความนิยมอยู่ที่ระดับ 60 ต่อ 40

• จากรายงานการประชุมบีโอเจประจำเดือนมีนาคม พบว่าคณะกรรมการตกลงที่จะจับตาดูดัชนีราคาผู้บริโภคอย่างใกล้ เนื่องจากยังขาดแรงหนุนทางเศรษฐกิจที่ให้ผลักดันให้ญี่ปุ่นไปถึงเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2%

• ดัชนี PMI ภาคการผลิตของประเทศเยอรมณีออกมาลดลงเล็กน้อยที่ระดับ 58.2 ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี ที่ระดับ58.3 จึงเป็นสัญญาณว่าภาคอุตสาหกรรมของเยอรมณีจะยังคงเป็นปัจจัยที่ผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซน

• ราคาน้ำมันปรับลดลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับมาตรการปรับลดอัตราการผลิตของกลุ่มโอเปก ว่าอาจจะแก้ไขปัญหาภาวะน้ำมันล้นตลาดไม่ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 0.4% ที่ระดับ 51.34 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 0.4% ที่ระดับ 48.64 เหรียญ/บาร์เรล