• ตลาดการเงินส่วนใหญ่ยังคงรอคอยการประชุมเฟดที่จะทราบผลการประชุมในค่ำคืนนี้ โดยเชื่อว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ในการประชุมวาระนี้ แต่ตลาดให้ความสนใจไปยังสัญญาณที่ว่าเฟดจะพูดถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอย่างไร
ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวรอคอยถ้อยแถลงผลประชุมเฟด โดยดัชนีดอลลาร์เช้านี้ทรงตัวบริเวณ 98.907 จุด ขณะที่ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย 0.1% ที่ระดับ 1.0934 ดอลลาร์/ยูโร
สำหรับค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนในเช้านี้ โดยทรงตัวบริเวณ 112.04 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่เมื่อคืนนี้ขึ้นไปทำระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์บริเวณ 112.33 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับแข็งค่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนนับตั้งแต่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา
• รายงานจาก CNBC ระบุว่า เฟดน่าจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับมุมมองการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสแรก ท่ามกลางปัจจัยชั่วคราวที่เกิดขึ้นและไม่น่าจะส่งผลกระทบใดๆต่อแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเฟดมีคาดการณ์ว่าจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้จำนวน 2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ตลาดคาดว่ามีโอกาส 50% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในการประชุมเดือนมิถุนายน
• เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ประเมินว่า โอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวาระนี้มีเพียง 4.8% เท่านั้น
• สหรัฐฯกำลังทำการเจรจากับจีนเกี่ยวกับมาตรการต่างๆที่ U.N. สามารถใช้ตอบโต้กับการทดสอบอาวุธของเกาหลีเหนือได้ อย่างเช่นการคว่ำบาตร ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ได้มีคณะกรรมการความมั่นคงของ U.N. จำนวน 15 ท่าน ที่สนับสนุนการคว่ำบาตรเกาหลี
• ประธานาธิบดีสหรัฐฯและประธานาธิบดีรัสเซียได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์เมื่อวานนี้ ซึ่งทั้งสองได้แสดงถึงเจตจำนงที่ต้องการบรรเทาความตึงเครียดหลังสหรัฐฯโจมตีสนามบินของประเทศซีเรียเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา โดยการหยุดเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในใจกลางเมืองซีเรียและจัดสถานที่ปลอดภัยสำหรับผู้อพยพจากสงครามกลางเมือง
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองผู้นำได้พูดคุยกันผ่านทางโทรศัพท์ นับตั้งแต่เหตุโจมตีสนามบินซีเรีย ซึ่งทั้งสองผู้นำอาจมีการเดินทางไปพบกันโดยตรงภายในเดือนกรกฎาคม
• ราคาน้ำมันดิบยังคงปิดปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ โดยนักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลก และการเพิ่มกำลังการผลิตในตะวันออกกลางที่อาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มภาวะอุปทานในปัจจุบัน หลังจากที่ลิเบียมีการผลิตน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น โดยคาดว่าในขณะนี้มีกำลังการผลิตที่ระดับ 750,000 บาร์เรล/วัน จึงอาจส่งผลให้เกิดภาวะอุปทานล้นตลาด
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 76 เซนต์ ที่ระดับ 48.08 เหรียญ/บาร์เรล และเมื่อคืนนี้ลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 47.49 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา และยังเป็นการร่วงลงต่ำกว่าระดับ 48 เหรียญ/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งเดือน ขณะที่เดือนที่แล้วร่วงลงไปกว่า 5.2%
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 51 เซนต์ ที่ระดับ 51.01 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับราคาปิดที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ 29 พฤศจิกายน ขณะที่เมื่อคืนนี้ร่วงลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 50.37 เหรียญ/บาร์เรล