• หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้เกือบ 2% ในวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการปรับตัวขึ้นระดับรายวันที่มากที่สุดนับตั้งแต่ที่เกิดกรณี Brexit แต่เมื่อคืนนี้ ราคาทองคำปรับตัวลดลงมาประมาณ 1.1% แถวระดับ 1,247 เหรียญ หลังจากที่ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,265.04 เหรียญ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนจะลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,245.4 เหรียญ ซึ่งเป็นบริเวณเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วัน หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ติดต่อกัน 5 วันทำการ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิถุนายนปิด -0.5% ที่ระดับ 1,252.8 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ ทำการขายทองคำออก 1.19 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 850.71ตัน ซึ่งถือเป็นการลดสถานะการถือครองทองคำเป็นครั้งแรกในรอบ 8 วันทำการ
• ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบปี ท่ามกลางการรีบาวน์ของค่าเงินดอลลาร์ที่ตอบรับกับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาดีขึ้นเกินคาด แต่ทว่าความไม่แน่นอนเกี่ยวกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในรอบเกือบ 2 สัปดาห์
• ผู้อำนวยการฝ่ายการซื้อขายประจำ BMO Capital Markets ระบุว่า การปิดสถานะ Long เพื่อทำกำไรของนักลงทุนเมื่อวานนี้ ได้กดดันให้ราคาทองคำร่วงลงมาแถวบริเวณ 1,247 เหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นและค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รับรู้กระแสกันมากขึ้นเกี่ยวกับปัญหาการเมืองสหรัฐฯ จึงอาจทำให้ในช่วงหลายๆเดือนนี้มีการซื้อขายลดน้อยลง
• นักวิเคราะห์จาก Heraeus กล่าวว่า ราคาทองคำเกิดการ Pullback หลังจากที่ปรับตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งวานนี้ จึงอาจมีการอ่อนตัวลง ซึ่งราคาทองคำยังมีโอกาสกลับขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,260 เหรียญ
• รายงานล่าสุดจากรอยเตอร์ส ระบุว่า อดีตเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯปัจจุบัน ระบุว่า นายไมเคิล ฟลินน์ และเจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาของนายทรัมป์ มีการติดต่อกับรัสเซียในช่วงที่มีการเลือกตั้งผ่านการสนทนาทางโทรศัพท์อย่างน้อย 18 ราย รวมทั้งมีการติดต่อทางอีเมล์ในช่วง 7 เดือนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2016
• ราคาซิลเวอร์ปิด -1.5% ที่ระดับ 16.60 เหรียญ