• ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวได้เหนือระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ โดยได้รับอานิสงค์หลักจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาสดใส จึงช่วยบรรเทาแรงเทขายจากปัญหาทางการเมืองในสหรัฐฯ โดยดัชนีดอลลาร์เช้านี้อยู่ที่ระดับ 97.814 จุด จากระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 เดือนบริเวณ 97.333 จุด ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ขณะที่ค่าเงินยูโรเช้านี้ทรงตัวบริเวณ 1.1084 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินเยนปรับอ่อนค่าลงเล็กน้อย 0.1% ที่ระดับ 111.39 เยน/ดอลลาร์
• ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ออกมาดีขึ้นเกินคาดทั้งหมด นำโดย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ดีขึ้นแตะ 232,000 ราย ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 28 ปีครึ่ง ขณะที่ข้อมูลล่าสุดยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย ต่อเนื่อง 115 สัปดาห์ และยังคงส่งสัญญาณที่แข็งแกร่งของตลาดแรงงาน
• ดัชนีภาคการผลิตประจำเขตฟิลาเดเฟียในเดือนพฤษภาคมออกมาดีขึ้นเกินคาดแตะระดับ 38.8 จุด จึงยังบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของกิจกรรมภาคโรงงานอุตสาหกรรม
• นางลอเรตต้า เมสเตอร์ ประธานาเฟดสาขาเคฟแลนด์ กล่าวย้ำว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในตอนนี้ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจค่อนข้างสมบูรณ์พร้อมทั้งในเรื่องของการจ้างงาน ขณะที่เงินเฟ้อก็กำลังเข้าใกล้เป้าหมาย 2% ที่เฟดกำหนด
• นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวกับสมาชิกสภานิติบัญญัติ โดยระบุว่า ทีมบริหารของนายทรัมป์ไม่สนับสนุนการแบ่งแยกการลงทุนและภาคธนาคารพาณิชย์
• รายงานจาก CNBC ระบุว่า ทีมบริหารของนายทรัมป์ทำการยื่นจดหมายแก่สภาคองเกรสเกี่ยวกับรายละเอียดแผนการเจรจาครั้งใหม่ของข้อตกลง NAFTA ที่ประกอบไปด้วย 3 สมาชิกหลักอย่าง เม็กซิโก, แคนาดา และสหรัฐฯ
ทั้งนี้ สหรัฐฯจะเริ่มต้นเจรจาข้อตกลงดังกล่าวครั้งใหม่ในระยะเวลา 90 วัน นับจากวันที่ยื่นจดหมายต่อสภาคองเกรส ซึ่งผู้แทนทางการค้าของสหรัฐฯ ได้ทำการยื่นจดหมายต่อทางสภาคองเกรส โดยระบุว่า ทีมบริหารของนายทรัมป์ มีความต้องการให้ข้อตกลง NAFTA เป็นไปอย่าง “เหมาะสมกับปัจจุบัน”
• รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า กำหนดระยะเวลาการเริ่มต้นเจรจาข้อตกลง NAFTA จะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ โดยสหรัฐฯพยายามที่จะให้เกิดข้อตกลงที่ดีกว่าเกี่ยวกับแรงงานและกลุ่มผู้ผลิตของสหรัฐฯ
• นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี ยังคงกล่าวย้ำเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนที่ค่อนข้างแข็งแรงมากขึ้น
• ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ หลังจากที่ อัลจีเรีย กล่าวว่า การขยายระยะเวลาการควบคุมการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกอาจะได้รับแรงสนับสนุนจากหลายๆประเทศสมาชิกที่เกี่ยวข้อง
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับตัวขึ้น 28 เซนต์ ที่ระดับ 49.35 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่มีประมาณ 7% และยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 100 วัน
ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับตัวขึ้น 30 เซนต์ ที่ระดับ 52.51 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่ 20 เมษายนที่ผ่านมา