MTS Help Center

• สกุลเงินในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลงในวันนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของราคาน้ำมันเมื่อคืนนี้ หลังจากที่นักลงทุนผิดหวังต่อผลประชุมโอเปกที่ขยายเพียงระยะเวลาการปรับลดแต่ไม่ได้ขยายจำนวนการปรับลดกำลังการผลิตออกไป ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นมาสู่ระดับ 97.307 จุด หลังจากที่ลงไปทำจุดต่ำสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาบริเวณ 96.797 จุด ซึ่งถือเป็ฯระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา

ด้านค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.1% ที่ระดับ 1.1199 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ในช่วงต้นสัปดาห์ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 6 เดือนบริเวณ 1.1268 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงเล็กน้อย 0.1% ที่ระดับ 111.74 เยน/ดอลลาร์

• ขณะที่ค่าเงินอังกฤษร่วงลงจากผลสำรวจที่เห็นว่าพรรคแรงงานเริ่มมีคะแนนนำพรรคอนุรักษ์นิยมของ นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษประมาณ 5 จุด ก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ โดยค่าเงินปอนด์ร่วงลง 0.3%สู่ระดับ 1.2908 ดอลลาร์/ปอนด์ โดยเป็นการร่วงลงต่อเนื่องหลังจากที่เมื่อคืนนี้ก็ปรับตัวลงไป 0.3% จากข้อมูลเศรษฐกิจของอังกฤษที่ส่งสัญญาณอ่อนตัวในไตรมาสแรกของปี

• ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ พบว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯยังคงอยู่ระดับต่ำในรอบ 44 ปี จึงยังบ่งชี้ถึงสัญญาณที่แข็งแกร่งของตลาดแรงงาน และอาจเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดทำการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าได้

ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงอยู่ในทิศทางที่สดใส แม้ว่าข้อมูลดุลการค้าสหรัฐฯจะมียอดขาดดุลเพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย. ประกอบกับยอดสินค้าคงคลังที่ปรับตัวลดลง แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าจีดีพีไตรมาสที่ 2 จะขยายตัวได้ตามที่คาดหวังไว้

• นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า เขาใช้ระยะเวลาพอสมควรในการคำนึงถึงผลกระทบของนโยบายการเงินของนายทรัมป์ว่าจะส่งผลอย่างไรต่อเศรษฐกิจ และคาดว่าจะเป็นการส่งผลเพียงระยะสั้นเท่านั้น ส่วนระยะยาวน่าจะได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย ขณะที่วิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยหนุนทิศทางเศรษฐกิจในขณะนี้ คือการค่อยๆปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในขณะที่สภาพเศรษฐกิจอ่อนตัวลง และถึงแม้ว่าเงินเฟ้อจะยังอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมาย 2% แต่ก็ไม่ได้สร้างแรงกดดันใดๆเพิ่มขึ้นในการที่จะดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นจำนวน 2 ครั้งในปีนี้ตามที่ตัวเขาและเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่คาดหวังไว้

• ราคาน้ำมันปรับตัวลงเกือบ 5% ท่ามกลางกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อื่นๆตัดสินใจขยายเวลาการปรับลดการผลิตออกไปอีก 9 เดือน แต่ก็ยังคงสร้างความผิดหวังให้แก่ตลาดที่คาดหวังกันว่าจะมีการปรับจำนวนการปรับลดการผลิตให้มากกว่าข้อตกลงแรก จึงทำให้ราคาปรับตัวลงมากที่สุดในระดับวันนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม

น้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 2.46 เหรียญ หรือคิดเป็น -4.8% ที่ระดับ 48.90 เหรียญ/บาร์เรล โดยปรับตัวลงหลุดระดับ 50 เหรีญญเป็นครั้งแรกในสัปดาห์นี้ ขณะที่น้ำมันดิบ BRENT ปิดลดลง 2.5 เหรียญ หรือคิดเป็น +4.6% ที่ระดับ 51.46 เหรียญ/บาร์เรล

• ผลการประชุมระหว่างสมาชิกโอเปกและกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อื่นๆ ณ กรุงเวียนนา เมื่อวานนี้ พบว่า ทุกฝ่ายต่างเห็นพ้องในการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือน โดยยังคงการปรับลดที่ระดับ 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน จนกว่าจะสิ้นสุดไตรมาสที่ 1/2018