MTS Help Center

• ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงในวันนี้ หลังจากมีรายงานว่า กรีซอาจต้องจ่ายหนี้งวดหน้าหากบรรดาเจ้าหนี้ยังไม่สามารถจัดการบรรเทาหนี้สินให้แก่กรีซได้ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวท่ามกลางวันหยุดยาวของจีนและประเทศภูมิภาคบางส่วน รวมทั้งสหรัฐฯและอังกฤษ

โดยค่าเงินยูโรเช้านี้ร่วงลงมา 0.2% ที่ระดับ 1.1136 ดอลลาร์/ยูโร โดยร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 หลังจากมีรายงานของสื่อเยอรมนีที่ว่า กรีซอาจต้องทำการชำระหนี้งวดถัดไปเดือนกรกฎาคมนี้ หากยังไม่สามารถจัดการบรรเทาหนี้สินได้

• ด้านดัชนีดอลลาร์ทรงตัวในวันนี้ ท่ามกลางภาวะแรงกดดันทางการเมืองในอังกฤษและยูโรโซน โดยเช้านี้ดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นเล็กน้อย 0.3% แถวระดับ 97.706 จุด หลังจากที่ร่วงลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 6 เดือนที่ระดับ 96.797 จุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา

• สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษมีคะแนนนำพรรคการแรงงานเพียง 6% เท่านั้น ซึ่งความผันผวนของโพลล์เลือกตั้งต่างๆ ทำให้ค่าเงินปอนด์ในวันนี้อ่อนค่าลงอีก 0.2% ที่ระดับ 1.2812 ปอนด์/ดอลลาร์ หลังจากที่ร่วงลงไปทำจุดต่ำสุดในสัปดาห์ที่แล้วจากเหตุก่อการร้ายในเมืองแมนเชสเตอร์ที่ระดับ 1.2775 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์

• นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี กล่าวว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนอยู่ในเกณฑ์ฟื้นตัว แต่เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ จึงยังคงต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

อย่างไรก็ดี อีซีบีจะมีกำหนดการประชุมเรื่องนโยบายการเงินในวันที่ 8 มิถุนายน

• บรรดาเจ้าหนี้ของกรีซจำเป็นต้องการบรรลุข้อตกลงผ่อนคลายระดับหนี้สินให้ได้ในการประชุมครั้งถัดไปของรัฐมนตรีการคลังยูโรโซนในเดือนหน้า เพื่อช่วยให้ประเทศกลับสู่ตลาดพันธบัตรได้ หลังจากที่การหารือในสัปดาห์ที่แล้วกรีซ และบรรดาเจ้าหนี้ต่างล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งทางรัฐสภาของกรีซจะต้องผ่านแผนปฏิรูปให้แล้วเสร็จในเดือนนี้โดยจะมีผลระหว่างปี 2019-2020 แทนที่ข้อตกลงการช่วยเหลือทางการเงินที่จะหมดอายุลงไป

• สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ยอดขายปลีกของญี่ปุ่นขยายตัวได้เกินคาดแตะระดับ 3.2% ในเดือนเมษายน ขณะที่ยอดค่าใช้จ่ายภาคครัวเรือนร่วงลง 1.4% ในเดือนเมษายนเมื่อเทียบรายปี ขณะเดียวกันอัตราการว่างงานยังคงทรงตัวที่ระดับ 2.8%

• น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับตัวขึ้น 19 เซนต์ ที่ระดับ 49.99 เหรียญ ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิดขึ้น14 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.2%ที่ระดับ 52.29 เหรียญ/บาร์เรล

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดยังคงมีท่าทีระมัดระวังต่อปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯที่เพิ่มสูงขึ้น ภายใต้กการควบคุมกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก ขณะที่ตลาดมีปริมาณการซื้อขายที่เบาบางเนื่องจาก จีน สหรัฐฯ และอังกฤษ ต่างก็หยุดเนื่องในวันหยุดเทศกาลประจำชาติของตน และตลาดยังไม่แน่ใจว่าการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกจะเป็นปัจจัยที่ผลักดันราคาน้ำมันได้

• รายงานล่าสุดระบุว่า นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือทำการทดลองขีปนาวุธครั้งใหม่ที่ควบคุมโดยระบบนำวิถีที่แม่นยำ รวมทั้งคำสั่งในการพัฒนาอาวุธทางยุทธศาสตร์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น