• รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ดัชนีการใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 4 เดือนในเดือนเม.ย. ประกอบกับข้อมูลเงินเฟ้อมีการรีบาวน์ จึงบ่งชี้ว่า อุปสงค์ภายในประเทศมีความแข็งแกร่งและอาจเกื้อหนุนให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
โดยดัชนีค่าใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งคิดเป็น 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถขยายตัวได้ 0.4% ในเดือนเม.ย. ขณะที่ข้อมูลในเดือนมี.ค. ถูกปรับทบทวนขึ้นมาบริเวณ 0.3% จากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นในส่วนของสินค้าและบริการ
• ขณะที่ดัชนีการอุปโภคบริโภคที่ไม่รวมอาหารและพลังงาน (Core PCE Price Index) ซึ่งถือเป็นมาตรวัดของเงินเฟ้อมีการรีบาวน์กลับมาแถวระดับ 0.2% ในเดือนเม.ย. หลังจากที่ร่วงลงไป 0.1% ในเดือนก่อนหน้า โดยภาพรวมในช่วง 12 เดือน สามารถขยายตัวได้ 1.5%
• นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ประมาณการณ์ว่า มีโอกาสที่จะเห็นโอกาสเงินเฟ้อขยายตัวได้ 2% ในปีหน้า
• โพลล์สำรวจล่าสุดของ YouGov ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษในสัปดาห์หน้า ชี้ให้เห็นว่า พรรคอนุรักษ์นิยมอาจสูญเสียเก้าอี้ในสภาประมาณ 20 ที่นั่ง จาก 330 ที่นั่ง ขณะที่พรรคแรงงานน่าจะได้เสียงเพิ่มในสภาอีก 30 ที่นั่ง
หากพรรคอนุรักษ์นิยมสูญเสียที่นั่งไปตั้งแต่ 16 ที่นั่ง ก็อาจปราศจากเสียงสนับสนุนที่เพียงพอในการโหวตเพื่อหารือ Brexit
• ประเด็นความไม่แน่นอนทางการเมืองของอังกฤษได้ส่งผลกระทบต่อค่าเงินปอนด์ โดยเช้านี้ค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะ 1.2791 ดอลลาร์/ปอนด์ ใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนที่ทำไว้เมื่อวันศุกร์บริเวณ 1.2775 ดอลลาร์/ปอนด์
• สำหรับดัชนีดอลลาร์ทรงตัวแถวระดับ 97.40 จุด ขณะที่ค่าเงินยูโรทรงตัวแถว 1.11733 ดอลลาร์/ยูโร
• ด้านค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับค่าเงินเยน ซึ่งเป็นสินทรัพย์ Safe-Haven เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะความตึงเครียดทางการเมืองในยุโรป ท่ามกลางความอ่อนตัวในตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากช่วงวันหยุดยาวของสหรัฐฯ โดยจะเห็นได้ว่า ค่าเงินเยนปรับแข็งค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 110.665 เยน/ดอลลาร์ ก่อนจะทรงตัวแถว 110.85 เยน/ดอลลาร์
• เมื่อคืนที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าววิพากษ์วิจารณ์ระบบการค้าและการใช้จ่ายของประเทศเยอรมนีว่าเป็นเรื่องที่ “เลวร้าย” จึงส่งผลให้เกิดความตึงเครียดขึ้นระหว่างรัฐบาลทั้งสองฝ่าย โดยนายทรัมป์ถูกเรียกว่าเป็น“ผู้ทำลายคุณค่าของชาวตะวันตก” จากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเยอรมนี
• ประธานองค์การสหประชาชาติ ได้พยายามโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯเห็นถึงคุณค่าของการลงทุนและการให้ความช่วยเหลือในต่างประเทศ และได้เตือนว่าหากสหรัฐฯถอนตัวออกจากการเป็นผู้นำโลก ประเทศอื่นก็พร้อมจะเข้ามาแทนที่
• ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจจีนเช้านี้ พบว่า กิจกรรมภาคการผลิตทรงตัวบริเวณ 51.2 จุดเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่ภาคบริการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 54.5 จุด จากเดิม 54.0 ในเดือนก่อนหน้า
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด -0.3% ที่ระดับ 49.66 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด -0.9% ที่ระดับ 51.84 เหรียญ/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันดิบปิดร่วงลงจากสัญญาณปริมาณการผลิตของลิเบียที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับความกังวลที่ว่าการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกอาจไม่เพียงพอที่จะช่วยลดภาวะอุปทานโลกที่กดดันราคาน้ำมันดิบมายาวนานกว่า 3 ปีแล้ว
• นายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้ออกคำสั่งให้มีการตรวจสอบการนำเข้าระบบป้องกันขีปนาวุธ (THAAD) หลังมีรายงานว่าสหรัฐฯได้นำระบบดังกล่าวมาติดตั้งในประเทศเพิ่มเติมอีก 4 เครื่อง