• ดัชนีดาวโจนส์ปิด -0.23% ที่ระดับ 21,136.23 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด -0.28% และดัชนี Nasdaq ปิด -0.33%
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวลงท่ามกลางเหล่าเทรดเดอร์ที่ลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงจากภาวะความตึงเครียดทางการเมืองและเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษที่จะเป็นตัวชี้ชะชาการออกจากอียู การประชุมอีซีบี และการกล่าวถ้อยแถลงต่อวุฒิสภาสหรัฐฯของอดีต ผอ. FBI ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของบรรดานักลงทุนในตลาด
• บรรดาเหล่าเทรดเดอร์พากันเทขายหุ้นและกลับเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย อันจะเห็นได้จากราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้น 1.1% มาทรงตัวที่ระดับ 1,293.47 เหรียญ หลังจากที่ช่วงต้นตลาดราคาทองคำปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐฯร่วงลงแตะ 2.129% ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อช่วงเดือนพ.ย.
• ตลาดหุ้นเอเชียดูจะมีแนวโน้มร่วงลงต่อในวันนี้ จากบรรดานักลงทุนที่ลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงก่อนเข้าสู่เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองและข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้ จึงจะเห็นได้ถึงการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำและตราสารหนี้ที่เป็นไปอย่างแข็งแกร่งนับตั้งแต่ช่วงกลางดึกวานนี้
เช้านี้ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดญี่ปุ่นเปิด -0.2% ขณะที่ตลาดหุ้นออสเตรเลียและญี่ปุ่นก็เปิดลดลงในเช้านี้เช่นกัน โดยดัชนีนิกเกอิเปิด -0.17%
• นักบริหารเงิน ประเมินว่ากรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ จะเคลื่อนไหวระหว่าง 33.90-34.10 บาท/ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยหลักที่นักลงทุนรอคอย คือผลการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้า ขณะที่ในสัปดาห์นี้ที่ต้องติดตามคือ ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป การเลือกตั้งของประเทศอังกฤษ และกรณีอดีตผู้อำนวยการ FBI จะแถลงต่อวุฒิสภาสหรัฐในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯและรัสเซีย