• ทองคำอ่อนตัวลงในวันนี้มาแถวระดับ 1,284 เหรียญ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รอคอยทิศทางตลาดจากเหตุการณ์ทางการเมืองในช่วงค่ำวันนี้ ที่อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดปริมาณความต้องการทองคำในฐานะ Safe-Haven
• ขณะที่การเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษจะทำการเปิดหีบให้ลงคะแนนเสียงในช่วงค่ำวันนี้ ท่ามกลางอีซีบีที่จะเปิดฉากประชุมในวันนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับการปรับลดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ รวมทั้งการกล่าวให้ปากคำของอดีตผู้อำนวยการFBI ก่อนเข้าสู่สภาคองเกรส เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนายทรัมป์ในช่วงค่ำวันนี้เช่นกัน
• หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Wing Fung Financial Group กล่าวว่า มีหลายปัจจัยทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน และนั่นจะส่งผลให้เกิดความผันผวนต่อตลาดอย่างมากรวมทั้งการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ จึงคาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,280 – 1,300 เหรียญ
• ราคาทองคำร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน หลังจากที่ทราบร่างแถลงการณ์ของนายโคมีย์ ที่จะให้ปากคำต่อวุฒิสภาฯวันนี้ ซึ่งไม่มีอะไรใหม่ให้น่าประหลาดใจต่อตลาด โดยเขาจะกล่าวเกี่ยวกับประเด็นที่ นายทรัมป์ ขอให้เขายุติกระบวนการสืบสวนอดีตผู้ช่วยด้านความมั่นคงของเขาในกรณีมีส่วนรู้เห็นกับทางรัสเซียในช่วงเลือกตั้งเมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว
• ความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่ในตลาดระหว่างรอผลเลือกตั้งอังกฤษ ซึ่งนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษต้องการเสียงสนับสนุนที่แข็งแกร่งสำหรับการเจรจากรณี Brexit และนั่นช่วยจำกัดการร่วงลงของราคาทองคำ
• ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นล่วงหน้า ชี้ให้เห็นว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของนางเมย์ ยังคงมีคะแนนนำอยู่ในช่วงระหว่าง 5-12% เมื่อเทียบกับพรรคแรงงานซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญในศึกนี้ จึงบ่งชี้ว่า นางเมย์ อาจจะได้รับเสียงข้างมากในสภาได้
• นักวิเคราะห์อาวุโสจาก OANDA กล่าวว่า อย่างน้อยที่สุดราคาทองคำก็น่าจะรอขึ้นต่อจากภาวะความเสี่ยงที่จะเป็นปัจจัยที่หนุนราคา ซึ่งเราน่าจะทราบผลการลงคะแนนเสียงการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ของตลาดเอเชีย ซึ่งภาวะขาลงของทองคำก็ดูจะถูกจำกัดในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันหากอีซีบียังมีแนวโน้มที่จะคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน เนื่องจากเงินเฟ้อยังอยู่ต่ำกว่าเป้าหมาย แต่ทิศทางเศรษฐกิจของยูโรโซนก็อยู่ในทิศทางที่แข็.แกร่ง แต่สมาชิกอีซีบีบางรายน่าจะให้มุมมองเชิงบวกทางเศรษฐกิจและหนุนให้อีซีบีเริ่มลดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจได้
• ราคาซิลเวอร์ปรับตัวขึ้น 0.2% ในวันนี้ แถวระดับ 17.59 เหรียญ
• ปัจจัยที่สำคัญมากต่อตลาดทองคำคือการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า โดยตลาดประเมินว่ามีความเป็นไปได้กว่า 90% ที่เฟดจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 13-14 มิ.ย.นี้ ซึ่งหากเฟดขึ้นจริงก็น่าจะไม่ส่งสร้าง Surprise แก่ตลาดมากนัก แต่สิ่งสำคัญที่ตลาดรอคือถ้อยแถลงจากเฟดเกี่ยวกับคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อมากกว่า
ซึ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่ผ่านมา เฟดมีมุมมองว่าเป็นเพียงภาวะชั่วคราวเท่านั้น แต่เราก็เชื่อว่าเฟดมีโอกาสจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปหากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอและส่งผลต่อมุมมองของพวกเขา ประกอบกับโอกาสที่จะเห็นเงินเฟ้ออ่อนตัวลงกว่าคาดการณ์ในปัจจุบันที่ระดับ 1.9% สู่ระดับ 1.7%
และหากการประเมินของเฟดเป็นจริงเกี่ยวกับการที่ข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอนั้นเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ก็จะส่งผลลบต่อราคาทองคำ ขณะเดียวกันตลาดก็จับตาว่า เมื่อไรที่เฟดจะตัดสินใจปรับนโยบายสู่ภาวะปกติ ในส่วนของยอดงบดุลบัญชีในพอร์ตที่ระดับ 4.5 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งเฟดน่าจะพร้อมสำหรับการหารือเรื่องดังกล่าว
• นักวิเคราะห์จาก IG Markets คาดว่า การประชุมในเดือนกันยายน เฟดอาจประกาศที่จะทำการเริ่มต้นลดยอดงบดุล และอาจให้มีผลบังคับใช้ในการประชุมเดือนตุลาคม ขณะที่ภาพรวมทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดน่าจะเกืดขึ้นในการประชุมเดือนนี้ และเดือนธันวาคม แต่ก็ยังไม่มีความแน่ชัดในประเด็นนี้
และหากต้องการจะเห็นทองคำเป็นทิศทางขาขึ้นก็ต้องเห็นเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะขาลง จึงจะทำให้บรรดาผู้คนส่วนใหญ่หันกลับมาหาทองคำ
• นักกลยุทธ์จาก IG Markets แสดงความคิดเห็นว่า เหตุการณ์สำคัญในวันนี้น่าจะไม่ส่งผลลบต่อราคาทองคำ แต่หากอีซีบีสร้างความผิดหวังให้แก่ตลาด โดยมีการขยายเวลาผ่อนคลายทางการเงิน ก็อาจเห็นค่าเงินยูโรกลับมาอ่อนค่า และจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่า รวมทั้งจะทำให้ทองคำย่อตัวลง แต่โดยภาพรวมไม่คิดว่าราคาทองคำจะตอบรับกับการดำเนินการของอีซีบีมากขนาดนั้น
• ขณะที่กรณีการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษก็ดูจะไม่ส่งผลต่อราคาทองคำมากเช่นกัน แต่น่าจะส่งผลอย่างมากกับค่าเงินปอนด์มากกว่า ซึ่งปัจจัยที่น่าจะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำน่าจะเป็นเรื่องเงินเฟ้อ และการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์มากกว่า ประกอบกับการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า
• อย่างไรก็ดี ภาพรวมของทองคำยังอยู่ในแนวโน้มเชิงบวก โดยทองคำจะกลับเป็นขาขึ้นได้ หากเราเห็นราคาปิดเหนือระดับ 1,295 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน ซึ่งหากทองคำทดสอบและไม่ผ่านก็มีโอกาสจะเห็นทองคำกลับลงมาแถวระดับ 1,260 - 1,250 เหรียญในระยะสั้นและระยะกลาง