· ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวในเช้าวันนี้ หลังจากที่ร่วงลงไปแถวระดับ 97.10 จุด จากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาอ่อนแอ ประกอบกับนักลงทุนรอคอยถ้อยแถลงของบรรดาสมาชิกเฟด เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนต่อแนวทางการดำเนินนโยบายเพิ่มขึ้น
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดอลลาร์สามารถปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ บริเวณ 97.56 จุด หลังจากที่เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และยังเปิดกว้างสำหรับการปรับขึ้นอีกในปีนี้ แต่การปรับตัวขึ้นดังกล่าวถูกจำกัดและได้รับแรงกดดันเพิ่มขึ้นจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาแย่ของสหรัฐฯ ขณะที่คืนนี้ตลาดรอคอยถ้อยแถลงของ นายวิลเลียม ดัดเลย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ที่คาดว่าน่าจะช่วยหนุนทองคำ เนื่องจากดูเหมือนว่า นายดัดเลย์ จะมีมุมมองเดียวกันกับประธานเฟด
· นักกลยุทธ์ค่าเงินจาก Mizuho Securities กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในคืนวันศุกร์ อาจทำให้นายดัดเลย์ กล่าวถึงแนวทางของเฟดที่ยังต้องการปรับนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติต่อเนื่อง แต่ก็อาจไม่ให้สัญญาณผ่อนคลายทางการเงินมากนัก จึงมีโอกาสเห็นค่าเงินดอลลาร์ค่อยๆปรับแข็งค่าขึ้น
นอกจากนี้ นายดัดเลย์ อาจช่วยสร้างความชัดเจนขึ้นว่าทำไมเฟดจึงดูเหมือนเพิกเฉยต่อข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแอและทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่ผ่านมา
· สำหรับค่าเงินเยนปรับแข็งค่าลงมาทรงตัวแถว 110.955 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่อ่อนค่าไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 111.40 เยน/ดอลลาร์ในคืนวันศุกร์ ก่อนทราบข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะที่ค่าเงินยูโรทรงตัวบริเวณ 1.1204 ดอลลาร์/ยูโร
· ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจคืนวันศุกร์ของสหรัฐฯส่วนใหญ่ออกมาแย่กว่าที่คาด นำโดยยอดการเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนพ.ค. ที่ออกมาแย่ลงสู่ระดับ 1.09 ล้านยูนิต และถือเป็นการร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 โดยข้อมูลล่าสุดปรับตัวลง 5.5% และแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ขณะที่ยอดอนุมัติที่รอการก่อสร้างออกมาแย่ลงกว่าที่คาดเช่นกัน แตะระดับ 1.17 ล้านยูนิต จากระดับ 1.23 ล้านยูนิต ซึ่งข้อมูลที่อยู่อาศัยล่าสุดอาจเป็นปัจจัยกดดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 นี้
· รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นประจำเดือนมิถุนายนออกมาแย่กว่าที่คาดเช่นกัน โดยผลสำรวจจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนออกมาแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่ผ่านมา และยังคงปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่องจนถึงเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. หลังจากที่อดีต ผอ. FBI ให้ปากคำต่อคองเกรสกรณีการติดต่อกันระหว่างเขาและนายทรัมป์ โดยข้อมูลล่าสุดออกมาที่ระดับ 94.5 จุด จากระดับ 97.1 จุด
· นายโรเบิร์ต เคพแลนด์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวในเชิงท่าทีระมัดระวังต่อการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดปีนี้ จากข้อมูลเงินเฟ้อที่แสดงให้เห็นถึงภาวะอ่อนตัว โดยเชื่อว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของเฟด อาจจำเป็นต้องรอหลักฐานเพิ่มเติมในการพิสูจน์ถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น และเงินเฟ้อขยายตัวได้สู่ระดับเป้าหมาย 2% ที่กำหนดไว้
· หลังทราบแนวทางการดำเนินนโยบายของเฟด ทางธนาคารกลางจีน (PBoC) ก็ได้ประกาศผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมโดยอัดฉีดเงินเข้าระบบการเงินสุทธิ 2.5 แสนล้านหยวน (3.673 หมื่นล้านเหรียญ) โดยเป็นระดับการอัดฉีดรายวันที่มากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนม.ค. เมื่ออุปสงค์ของเม็ดเงินเพิ่มสูงขึ้นก่อนช่วงวันหยุดตรุษจีน ซึ่งการเคลื่อนไหวล่าสุดของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางจีนแสดงให้เห็นถึงความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความผันผวนทางการเงินภายในประเทศจากกระแสเงินที่ไหลออก
· ทนายส่วนตัวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯเผย นายทรัมป์ไม่ได้ถูกสืบสวนในกรณีที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์กับรัสเซียแต่อย่างใด เนื่องจากยังไม่มีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการสืบสวนจากหน่วยงานใด
· คะแนนความนิยมของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในแบบสำรวจความนิยมของประชาชน ปรับร่วงลงไปกว่า 10% อยู่ที่ระดับ 44.9% โดยสาเหตุหลักเกิดจากข่าวฉาวที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจอย่างทุจริตเพื่อสนับสนุนธุรกิจของคนรู้จัก ขณะที่นายอาเบะยังคงให้การปฏิเสธข่าวดังกล่าว
· รัฐมนตรีว่าการกระทรวงรัฐบาลอังกฤษ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะสามารถเจรจากรณี Brexit กับสหภาพยุโรปได้ทันภายในระยะเวลา 2 ปี ตามที่ข้อตกลงด้านการถอนตัวของจากสหภาพได้ระบุไว้
· รานงานจากรอยเตอร์สระบุว่า เรือรบของอิหร่านและจีนได้จัดการซ้อมรบร่วมขึ้นในบริเวณอ่าวโอมานซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของอิหร่าน ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างประเทศอาหรับและกาตาร์ที่ยังคงมีอยู่
· เครื่องบินรบของซีเรียถูกยิงตกโดยสหรัฐฯ ในพื้นที่ทางตอนใต้ของจังหวัดรักกา โดยสหรัฐฯระบุว่าเครื่องบินลำดังกล่าวได้ทำการทิ้งลูกระเบิดใกล้ฐานทัพของฝ่ายตน ขณะที่รัฐบาลซีเรียได้ระบุว่าเครื่องบินลำดังกล่าว กำลังปฏิบัติภาระกิจเพื่อต่อต้านกลุ่มก่อการร้าย IS
· ราคาน้ำมันดิบคืนวันศุกร์ปิดปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบปี ท่ามกลางกลุ่มผู้ผลิตบางรายที่เริ่มลดปริมาณการส่งออก ท่ามกลางจำนวนแท่นขุดเจาะที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ แต่การรีบาวน์กลับของราคาน้ำมันดิบเป็นไปอย่างปานกลาง และภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมายังปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 45 เซนต์ ที่ระดับ 47.37 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับตัวขึ้น 28 เซนต์ ที่ระดับ 44.74 เหรียญ/บาร์เรล โดยภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 ตัวยังคงปิดปรับตัวร่วงลง 1.6%