• นายวิลเลียม ซี. ดัดเลย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ระบุว่า การยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลร้ายต่อเศรษฐกิจ โดยจะเห็นได้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯดีมาอย่างต่อเนื่องด้วยวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ดี แม้ว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำแต่ก็อาจจะรีบาวน์ขึ้นมาได้ควบคู่กับอัตราค่าแรง ท่ามกลางการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงาน ซึ่งถ้อยแถลงของนายวิลเลียม แสดงให้เห็นว่า แม้ข้อมูลเศรษฐกิจจะอ่อนแอแต่ก็ไม่มีแนวโน้มจะขัดขวางแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้
• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นตอบรับกับถ้อยแถลงดังกล่าวของเจ้าหน้าที่เฟด ที่แสดงความเชื่อมั่นต่อการปรับขึ้นของอัตราค่าแรงที่อาจช่วยหนุนเงินเฟ้อภายในประเทศ แม้ว่าข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดจะอ่อนตัว
ค่าเงินเยนกลับอ่อนค่าในรอบ 2 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์และค่าเงินยูโร หลังจากเจ้าหน้าที่บีโอเจมีแนวโน้มจะเริ่มต้นลดนโยบายกระตุ้นทางเศรษฐกิจ โดยค่าเงินเยนอ่อนค่ามาบริเวณ 111.43 เยน/ดอลลาร์
ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นมา 0.4% ที่ระดับ 97.537 จุด และค่าเงินยูโรปรับอ่อนค่าลงมา 1.1147 ดอลลาร์/ยูโร
• เช้านี้ นายชาร์ล อีวานส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก กล่าวว่า การที่เงินเฟ้ออ่อนตัว แม้ว่าอัตราการว่างงานจะลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี เฟดจึงควรดำเนินการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปรวมทั้งการทยอยปรับลดพันธบัตรในพอร์ตฟอลิโอด้วย
• เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ล่าสุด แสดงให้เห็นว่า เหล่าเทรดเดอร์ปรับเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนธันวาคม (12-13 ธ.ค.) ที่ระดับ 47% จากคาดการณ์เดิม 41%
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงประมาณ 1% และแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ท่ามกลางนักลงทุนในตลาดที่มองเห็นสัญญาณเพิ่มเติมว่าปริมาณน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลิเบีย และไนจีเรียจะเพิ่มสูงขึ้น ภายใต้ความพยายามของกลุ่มโอเปกที่จำกัดปริมาณการผลิตน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือนส.ค. ปิดปรับตัวลง 46 เซนต์ หรือคิดเป็น -1% ที่ระดับ 46.91 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 29 พ.ย. ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดร่วงลง 54 เซนต์ หรือคิดเป็น -1.2% ที่ระดับ 44.2 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ 14 พ.ย. ขณะที่สัญญาส่งมอบเดือนก.ค. จะหมดอายุในวันนี้
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ 2 สัญญาต่างปิดร่วงลงแล้วกว่า 15% นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อกลุ่มผู้ผลิตโอเปกได้ขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือน ด้วยจำนวน 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน