1. สัญญาณด้านเศรษฐกิจจากเฟด
เมื่อคืนที่ผ่านมา สมาชิกเฟดได้ออกมากล่าวถ้อยแถลง โดยนายจอร์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ได้กล่าวว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯดูมีท่าทีจะเริ่มหมดแรงสนับสนุนและแสดงความกังวลเกี่ยวกับศักยภาพของตลาดหุ้น ขณะที่นายแสตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด ได้กล่าวว่ามีการปรับขึ้นของตลาดสินทรัพย์เสี่ยงที่น่าสนใจ จึงส่งผลให้มีการประเมินสินทรัพย์เสี่ยงสู่ระดับที่ดีขึ้น และนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ระบุว่าอัตราดอกเบี้ยในระยะยาวจะยังคงให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยที่เคยตั้งไว้
2. สัญญาณการคุมเข้มทางการเงิน
เมื่อวานนี้ นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี เผยว่าอาจมีการปรับนโยบายการเงินให้เป็น”ปกติ”ในอนาคตอันใกล้นี้ ส่งผลให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าปิดตลาดด้วยผลประกอบการที่ดีที่สุดในกลุ่มสกุลเงิน G10 ขณะที่นายมาร์ค เคนนีย์ ผู้ว่าบีโออี ส่งสัญญาณที่จะปรับขยายเพดานทุนทรัพย์เบื้องต้นให้กับผู้ปล่อยเงินกู้ เพื่อเป็นการป้องกันระบบการเงินของประเทศจากปริมาณเครดิตที่สูงขึ้น ขณะที่ภายในคืนนี้ จะมีถ้อยแถลงจากนายดรากี้อีกครั้ง รวมถึงถ้อยแถลงจากนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจ
3. หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีกดดันตลาด
เมื่อคืนนี้ ดัชนี Nasdaq ปิดร่วงกว่า 1.8% ท่ามกลางความอ่อนแอของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ ดัชนีวัดสภาพคล่อง CBOE ปรับขึ้นกว่าระดับ 11 ท่ามกลางการเข้าซื้อของบรรดากองทุนเฮดจ์ฟันด์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการเทขายในตลาด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการ โดยยืนอยู่เหนือระดับ 44 เหรียญ/บาร์เรล
4. การโจมตีทางไซเบอร์
เกิดเหตุโจมตีทางไวรัสคอมพิวเตอร์อีกครั้งเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา โดยไวรัสตัวใหม่ได้สร้างความเสียหายให้กับระบบคอมพิวเตอร์ของธุรกิจทั่วโลก โดยเครื่องที่ติดไวรัสดจะถูกเรียกค่าไถ่เป็นค่าเงินอิเลคทรอนิคประมาณ 300 เหรียญสหรัฐฯ เพื่อที่จะปลดล็อคเครื่อง ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าค่าเงิน Bitcoin จะมีมูลค่าสูงกว่า 5 ล้านล้านเหรียญภายใน 5 ปี และจะไม่ได้รับกระทบจากการโจมตีทางไซเบอร์
5.ตลาดผันผวน
ดัชนี Nikkei เปิดตลาดทรงตัว ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 เคลื่อนไหวในแดนลบก่อนเปิดตลาดญี่ปุ่น ขณะที่ดัชนี MSCI ผันผวนก่อนหน้าถ้อยแถลงจากบรรดาสมาชิกเฟด ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงเผชิญกับการเทขายเนื่องจากบรรดาบริษัทและโบรกเกอร์หุ้นบางส่วนถูกตรวจสอบโดยรัฐบาล
ที่มา: Blooomberg
