MTS Help Center

• ราคาทองคำดีดกลับได้เล็กน้อยเมื่อคืนนี้ หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาจากข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ที่กดดันทำให้ราคาทองคำร่วงลง 1.1% และทำจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 4 เดือนบริเวณ 1,209.7 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา

ขณะที่เมื่อคืนนี้สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ตลาด COMEX ปิดปรับขึ้น 3.5 เหรียญ หรือคิดเป็น +0.3% ที่ระดับ 1,213.20 เหรียญ

• ข้อมูล Non-Farm Payrolls ที่ประกาศในคืนวันศุกร์พบว่าดีขึ้นเกินคาดแตะระดับ 222,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ช่วยหนุนมุมมองเฟดเกี่ยวกับแนวโน้มคุมเข้มทางการเงินต่อในปีนี้ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็จะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ซึ่งเมื่อดอลลาร์แข็งค่าก็จะลดความน่าสนใจในการลงทุนทองคำลง

• กองทุน SPDR ทำการขายต่อเนื่อง 2 วันทำการ โดยเมื่อวานนี้ขายอีก 2.96 ตัน ปัจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 832.39 ตัน

ทั้งนี้ ในช่วง 2 วันทำการ SPDR ขายออกมาทั้งสิ้น 8.28 ตัน ทำให้ภาพรวมตั้งแต่ 3 – 10 ก.ค. SPDR ขายออกแล้วทั้งสิ้นในเดือนนี้จำนวน 20.11 ตัน

• ผู้อำนวยการนักวิเคราะห์การตลาดจาก Think Markets กล่าวว่า แนวทางการคุมเข้มทางการเงินของบรรดาธนาคารกลางต่างๆทั่วโลก ประกอบกับข้อมูลการจ้างงานรัฐบาลล่าสุดของสหรัฐฯที่ออกมาดีขึ้นเกินคาดทำให้บรรดาเหล่าเทรดเดอร์มองว่าทองคำมีโอกาสปรับตัวลงมาแถวระดับ 1,200 เหรียญ และทองคำจะมีแนวรับถัดไปบริเวณ 1,177 เหรียญ หากหลุดต่ำกว่า 1,200 เหรียญลงมา โดยมีโอกาสสูงที่ทองคำจะปรับตัวลงมาหากข้อมูลเศรษฐกิจยังเป็นไปตามคาดการณ์เชิงบวก

• รายงานจาก Commerzbank เผยรายงานว่า บรรดานักลงทุนยังคงมีการลดการถือครองทองคำ โดยสถานะ Long Position สุทธิในทองคำและซิลเวอร์ร่วงลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 และถือเป็นการถือครองสถานะ Long ที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2016 และ ส.ค. ปี2015 ตามลำดับ

ขณะที่สถานะ Short Position ในซิลเวอร์ ยังคงมีการเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทางด้านสถานะ Short สุทธิในแพลทินัมก็ยังเพิ่มขึ้นสูงสุดต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาจะเห็นว่าการถือครองสถานะของบรรดานักลงทุนในตลาดบ่อยครั้งมักจะเป็นตัวบ่งชี้ทิศทางการเคลื่อนไหวของราคากลุ่มโลหะมีค่า

• เมื่อวานนี้ สัญญาซิลเวอร์ปิดปรับตัวขึ้น 20.4 เซนต์ หรือคิดเป็น +1.3% ที่ระดับ 15.629 เหรียญ หลังจากที่คืนวันศุกร์ปิดร่วงลงเกือบ 10% ในลักษณะ “Flash Crash” โดยดูเหมือนจะเกิดจากการส่งคำสั่งที่ผิดพลาดในตลาดซื้อขาย