ราคาทองคำในช่วงนี้เรียกได้ว่ามีความผันผวนอย่างมาก ท่ามกลางแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ว่า บรรดาธนาคารกลางรายใหญ่หลายๆแห่ง จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและออกนโยบายคุมเข้มทางการเงิน ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่อยู่ในระดับต่ำ
จากกราฟด้านล่างจะเห็นได้ว่า ราคาทองคำในปีนี้ได้ทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,295.97 เหรียญเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนที่จะร่วงลงมา 6% ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทำระดับต่ำสุดของช่วงกลางเดือนมีนาคมปีนี้ ก่อนที่จะมี Technical Rebound ฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงการซื้อขายเมื่อคืนที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์จาก HSBC คาดการณ์ว่า กระแสกดดันราคาทองคำในช่วงนี้จะอยู่ได้ไม่นานนัก เนื่องจากปัจจัยที่กดดันราคา “มีอยู่อย่างจำกัด”
โดยเขาระบุว่า ปัจจัยที่จะช่วยหนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวจากแนวโน้มทิศทางขาลงในช่วงนี้ ได้แก่ สภาวะของตลาดน้ำมันดิบในปัจุบันที่ดูจะเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น จากปริมาณอุปสงค์ที่สูงขึ้นในตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย ส่งผลให้ราคาน้ำมันเริ่มฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้
นอกจากนี้ ยังคงมีกระแสความตึงเครียดในบริเวณคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งมักจะส่งผลกับราคาทองคำได้ค่อนข้างมาก เนื่องจากบรรดานักลงทุนต้องการจะถือครองทองคำในฐานะ Safe-haven ในกรณีเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับกระทบในเชิงลบและลดความน่าสนใจของสินทรัพย์เสี่ยง
Thai
Eng