MTS Help Center

• สรุปถ้อยแถลง นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ที่กล่าวรายงานนโยบายครึ่งปีรอบแรกเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า สภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแกร่งเพียงพอต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการปรับลดยอดงบดุลในพอร์ตฟอลิโอด้วย เพียงแต่เงินเฟ้อและอัตราค่ากลางหรือ Neutral Rate ที่ยังอยู่ในระดับต่ำ อาจทำให้เฟดชะลอแนวทางการดำเนินนโยบายการเงิน

นอกจากนี้เธอยังระบุว่า สภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯมีการขยายตัวได้อย่างช้าๆ ขณะที่การจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะได้รับอานิสงส์จากการอุปโภคบริโภคของภาคครัวเรือน และการลงทุนในภาคธุรกิจที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งยังมีแรงหนุนจากเงื่อนไขทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของต่างประเทศด้วย

อย่างไรก็ดี เฟดคาดการณ์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯจะเป็นการยืนยันการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในเวลานี้ ขณะที่การปรับลดงบดุลกว่า 4 ล้านล้านเหรียญของเฟดมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ แต่เธอก็ยังให้สัญญาณว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดนั้นจะไม่เป็นการปรับขึ้นจำนวนมาก เพื่อให้ระดับ Neutral Rate นั้นไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ

สรุปได้ว่า การกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการกำกับดูแลการเงิน เฟดมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแกร่งพอต่อการคุมเข้มทางการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเธอคาดหวังว่าการค่อยๆปรับลดยอดงบดุลในพอร์ตจะเป็นการค่อยๆทยอยเข้าในตลาดต่างๆ

• รอยเตอร์ส รายงานว่า ถ้อยแถลงของประธานเฟดนั้น ชี้ให้เห็นว่า เฟดอาจควบคุมแนวทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยให้เกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

• นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตี้ กล่าวว่า เธอต้องการให้เฟดเริ่มต้นลดยอดงบดุลจำนวน 4.5 ล้านล้านเหรียญในพอร์ต ให้เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

• ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวอย่างจำกัดเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ หลังจากที่ประธานเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณการคุมเข้มทางการเงินอย่างที่หลายๆฝ่ายประเมินกันไว้ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แคนาดาปรับตัวขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน หลังจากที่บีโอซีตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2010

โดยดัชนีดอลลาร์เช้านี้ทรงตัวบริเวณ 95.758 จุด หลังจากที่เมื่อคืนนี้ลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 12 วันบริเวณ 95.511 จุด

ค่าเงินเยนอ่อนค่าขึ้นเล็กน้อยในเช้าวันนี้ประมาณ 0.2% ที่ระดับ 113.44 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่ปรับแข็งค่าลงมาประมาณ 0.7%วานนี้

• สำหรับค่าเงินดอลลาร์แคนาดาดได้รับแรงหนุนจากการที่บีโอซีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับ 0.5% สู่ระดับ 0.75% ประกอบกับการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ จึงทำให้ค่าเงินแคนาดาดอลลาร์ปรับขึ้นมาทรงตัวที่ระดับ 1.2750

• ค่าเงินยูโรเปลี่นยแปลงเล็กน้อยในเช้านี้แถวระดับ 1.1419 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่เมื่อวานนี้กลับแข็งค่าขึ้นไปยืนแถวระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนบริเวณ 1.1489 ดอลลาร์/ยูโร โดยตลาดยังคงได้รับอานิสงส์จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าอีซีบี่นาจะเริ่มต้นลดนโยบายผ่อนคลายทางการเงินในเร็วๆนี้

• สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ในกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายคนโตของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมายอมรับว่าเขาได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลรัสเซียอย่างลับๆ เพื่อนำข้อมูลของนางฮิลลารี่ คลินตัน มาใช้เพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้กับบิดาของตนในการเลือกตั้ง อาจเป็นละเมิดกฏหมายการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมก็จะมีการสืนสวนกันต่อไป

อย่างไรก็ดี นายทรัมป์ ได้ออกมายืนยันว่าเขาไม่มีการสั่งการให้บุตรชายของเขาติดต่อกับเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลรัสเซียเพื่อผลประโยชน์ของตนแต่อย่างใด

• รายงานจากรอยเตอร์ส ระบว่า เมื่อวานนี้ทางการสหรัฐฯมีการแจ้งไปยังเกาหลีใต้เกี่ยวกับแผนการจะเริ่มต้นเจรจาครั้งใหม่เกี่ยวกับการแก้ไขข้อตกลงทางการค้าเสรีฉบับ 5 ปีที่แล้ว โดยเกาหลีใต้และสหรัฐฯจะเริ่มต้นเจรจาในเดือนหน้า

• นายเอียน แม็คแคฟฟี่ สมาชิกบีโออี กล่าวว่า ธนาคารกลางอังกฤษควรตัดสินใจลดโปรแกรมผ่อนคลายทางการเงินจำนวน 4.35 แสนล้านปอนด์เป็นแผนการขั้นแรก

• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้ ขานรับรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯประจำสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลงเกินคาด จากปริมาณความต้องการแก๊สโซลีนที่ลดน้อยลง โดยน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 22 เซนต์ หรือคิดเป็น +0.5% ที่ระดับ 47.74 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 45 เซนต์ หรือคิดเป็น +1% ที่ระดับ 45.49 เหรียญ/บาร์เรล

• รายงานจาก EIA เผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาของสหรัฐฯปรับตัวลง 7.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับการร่วงลงมากที่สุดในรอบ 10 เดือน