• ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 84.65 จุด หรือคิดเป็น +0.39% ที่ระดับ 21,637.74 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +0.47% ที่ระดับ 2,459.27 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดปรับขึ้น +0.61% ที่ระดับ 6,312.47 จุด
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P500 ยังคงปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯช่วยลดกระแสคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
• สำหรับดัชนีมาตรวัดความผันผวน VIX ปิดระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ธันวาคมปี 1993
• ภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ปรับขึ้นได้ 1.1% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปรับขึ้น 1.4% และดัชนี Nasdaq ปรับขึ้น 2.6%
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวขึ้นวันนี้ หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง ขณะที่แนวโน้มการคุมเข้มทางการเงินของเฟดที่ลดน้อยลงส่งผลให้ดอลลาร์ร่วงลงทำระดับอ่อนค่ามากสุดในรอบ 10 เดือน โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิด +0.2% ขณะที่ดัชนีนิกเกอิเปิด +0.1%
• ในวันนี้ภาคธนาคารญี่ปุ่นปิดทำการเนื่องในวันแห่งท้องทะเล (Marine Day) จึงอาจส่งผลให้ตลาดเอเชียเคลื่อนไหวเบาบาง ขณะเดียวกันตลาดรอคอยการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจของจีน ไม่ว่าจะเป็น จีดีพี, ยอดค้าปลีก และผลผลิตภาคอุตสาหกรรม
โดยมีกระแสคาดการณ์กันว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวได้ 6.8% ในไตรมาสที่ 2 นี้ แต่ไม่น่าจะส่งผลกระทบมากนักต่อเศรษฐกิจจีน
• นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ที่ 33.80-34.20 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยตลาดให้ความสำคัญกับทิศทางการปรับตัวของสินทรัพย์เสี่ยง ผลการประชุมนโยบายการเงินของอีซีบีและบีโอเจ ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ผลสำรวจกิจกรรมภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ค. ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน การอนุญาตก่อสร้าง ดัชนีราคานำเข้าและส่งออกเดือนมิ.ย. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิเดือนพ.ค.นอกจากนี้ ตลาดน่าจะรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมิ.ย. ของจีนด้วยเช่นกัน