· ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 66.02 จุด หรือคิดเป็น +0.31% ที่ระดับ 21,640.75 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +0.54% และดัชนีNasdaq ปิด +0.64%
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ของสหรัฐฯต่างปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์แม้ว่าดัชนีดาวโจนส์จะถูกจำกัดการฟื้นตัวเล็กน้อยจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่ม IBM ก็ตาม โดยตลาดยังได้รับแรงหนุนหลักจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
· ผู้อำนวยการสำนักงานประจำ 50 Park Investment กล่าวว่า รายงานผลประกอบการที่ออกมาเป็นไปอย่างผสมผสานกัน โดยจะเห็นได้ว่า ผลประกอบการภาคธนาคารขนาดใหญ่ปรับตัวลง จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ดัชนี S&P และดาวโจนส์ถูกกดดันในระยะสั้น ขณะผลประกอบการบริษัท Netflix ที่ออกมาอย่างแข็งแกร่ง ได้หนุนให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวสูงขึ้น และทำให้มีการคาดการณ์ตามกันมาว่า หากรายงานผลประกอบการบริษัท Alphabet, Facebook และ Amazon ต่างออกมาขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ก็จะยิ่งหนุนให้นักลงทุนเข้าหาสินทรัพย์เทคโนโลยี โดยที่ผลประกอบการ 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ดังกล่าว มีกำหนดการจะเปิดเผยในสัปดาห์หน้า
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวขึ้นเช้านี้ จากเหล่านักลงทุนที่รอการตัดสินใจดำเนินนโยบายของบีโอเจและอีซีบี ขณะที่ดัชนีนิกเกอิเช้านี้เปิด +0.14% และดัชนี Kospi เปิด +0.05%
· นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวระหว่าง 33.55-33.65 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่ การประชุมของบีโอเจ และการประชุมของอีซีบี เพื่อรอดูว่า อีซีบีจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่