• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 20 กรกฏาคม 2560

    20 กรกฎาคม 2560 | Economic News


 


·         ผลการประกาศข้อมูลภาคที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ พบว่า ยอดอนุมัติรอการก่อสร้างประจำเดือนมิ.ย. ปรับตัวสูงขึ้นได้มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ หลังจากที่ร่วงลงติดต่อกัน 3 เดือน แต่กิจกรรมการก่อสร้างยังคงถูกจำกัด จากการเพิ่มขึ้นของราคาไม้แปรรูปที่ใช้ก่อสร้าง และการขาดแคลนแรงงาน รวมไปถึงที่ดินด้วย

·         ยอดอนุมัติรอการก่อสร้างปรับตัวขึ้น 7.4% แตะระดับ 1.25 ล้านยูนิตในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยได้รับอานิสงส์จากยอดขออนุมัติก่อสร้างบ้านเดี่ยวที่สูงขึ้น 4.1% หลังจากที่ปรับตัวลดลงในเดือนก่อนหน้า ขณะที่การขออนุมัติก่อสร้างบ้านสำหรับครอบครัวใหญ่เพิ่มขึ้นกว่า 13.9% ในเดือนที่แล้วเช่นกัน

·         ยอดการเริ่มต้นสร้างบ้านปรับตัวขึ้นกว่า 8.3% แตะระดับ 1.22 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ จากจำนวนการก่อสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยวและครอบครัวใหญ่ที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ข้อมูลการเริ่มต้นก่อสร้างบ้านในเดือนพ.ค. มีการปรับทบทวนขึ้นมาแตะระดับ 1.12 ล้านยูนิต จากข้อมูลเดิมที่ระดับ 1.09 ล้านยูนิต


·         ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร หลังจากที่ลงไปทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี แต่ค่าเงินเยนยังคงอยู๋ในทิศทางแข็งค่าในรอบกว่า 3 สัปดาห์ ท่ามกลางเหล่าเทรดเดอร์ที่รอคอยผลการประชุมอีซีบีและบีโอเจ

ค่าเงินยูโรทรงตัวแถวระดับ 1.1517 ดอลลาร์/ยูโร หลังร่วงลงไปแถวระดับ 1.1511 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่เมื่อวันอังคารขึ้นไปทำระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบกว่า 1 ปีบริเวณ 1.1583 ดอลลาร์/ยูโร

ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาบริเวณ 94.79 จุด หลังจากที่ลงไปทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 10 เดือน บริเวณ 94.476 จุด

ค่าเงินเยนปรับแข็งค่าลงไป 111.56 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับแข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ 27 มิ.ย.

·         พรรครีพับลิกันยังคงเผชิญอุปสรรค แม้ว่าจะพยายามหานโยบายประกันสุขภาพเพื่อมาแทนที่นโยบาย Obamacare ที่ใช้มาอย่างยาวนานในช่วง 7 ปี ซึ่งเห็นได้ชัดว่า พรรครีพับลิกันกำลังเผชิญกับสิ่งที่ไม่คาดคิดเมื่อต้องทำงานร่วมกับพรรคเดโมแครตในการปรับปรุงกฎหมายสุขภาพของอดีตประธานาธิบดีอย่าง นายบารัค โอบามา ที่ได้ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวในปี 2010

ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้พรรครีพับลิกันจะบรรลุร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวได้ รวมทั้งสร้างความมีเสถียรภาพให้แก่ตลาดสุขภาพ หรือปรับลดราคายาให้ลดลง ซึ่งเป็นใจความใหญ่ในร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว ขณะที่วุฒิสมาชิกของพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า อาจต้องมีการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง 2 พรรคการเมืองเพื่อล็อกการลงคะแนนในการต่อสู้เพื่ออุดมการณ์และประเด็นอื่นๆ

อย่างไรก็ดี รายงานจาก CBO ระบุว่า ชาวอเมริกากว่า 32 ล้านคน อาจต้องสูญเสียประกันสุขภาพของตนเองหากทางรัฐบาลยังไม่สามารถหาข้อกฎหมายที่จะมาแทนที่ Obamacare ได้

·         สำนักข่าว New York Time ระบุว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะไม่ดำเนินการแต่งตั้ง นายเจฟ เซสชัน เพื่อดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด หากเขาทราบว่า นายเซสชันจะถอนตัวจากกระบวนการสืบสวนกรณีความสัมพันธ์กับรัสเซีย

·         ผู้อำนวยการคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้สังกัดพรรครีพับลิกัน (U.S. House Ways and Means Committee)กล่าวว่า ความพยายามหาแนวร่วมของพรรครีพับลิกันเพื่อแก้ไขอุปสรรค และเพื่อให้ได้รับเสียงสนับสนุนให้สมาชิกสภานิติบัญญัติสามารถดำเนินการด้านกฎหมายเพื่อหาทางเลือกสำหรับแผนปฏิรูปภาษี

·         CNBC เผยว่า การประชุมอีซีบีในวันพฤหัสบดีนี้ ถูกคาดการณ์เป็นวงกว้างว่าจะยังคงนโยบายดอกเบี้ย แต่หลายๆตลาดก็ยังเฝ้าจับตาดูว่า อีซีบีจะทำการประกาศแผนการลดขนาดการเข้าซื้อพันธบัตรที่จะเกิดขึ้นในเช่วงเดือนก.ย.หรือไม่

·         ขณะที่ Reuters มองว่า ในการประชุมวารนี้ อีซีบีน่าจะเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในช่วงเดือนก.ย. พร้อมย้ำเน้นถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แต่อาจจะชะลอการคาดการณ์ใดๆออกไป เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงิน

ทางด้านการประชุมบีโอเจวันนี้ น่าจะตอบรับกับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของประเทศ แต่อาจมีการปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้ออีกครั้ง และการดำเนินการของบีโอเจอาจเป็นสัญญาณตอกย้ำในทิศทางเดียวกับบรรดาธนาคารกลางต่างๆที่ต้องการปรับลดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

 และถึงแม้ว่า ยอดส่งออกและการอุปโภคบริโภคของภาคเอกชนจะยังชี้ให้เห็นถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจญี่ปุ่นในระดับปานกลาง แต่ทางบีโอเจน่าจะยังคงนโยบายการเงินในการประชุมวาระนี้ก่อน ท่ามกลางการอ่อนตัวของเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มจะทำให้บีโอเจตัดสินใจปรับลดคาดการณ์นั่นเอง

·         รายงานยอดส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนมิ.ย. ปรับตัวขึ้น 9.7% เมื่อเทียบายปี ซึ่งถือเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันยาวนาน 7 เดือน โดยได้รับอานิสงส์จากการขนส่งรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่บ่งชี้ถึงภาวะอุปสงค์ที่แข็งแกร่งทั่วโลกยังคงดำเนินต่อไป จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และหนุนมุมมองของบีโอเจเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

·         น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 86 เซนต์ หรือคิดเป็น +1.8% ที่ระดับ 49.70 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 72 เซนต์ หรือคิดเป็น +1.6% ที่ระดับ 47.12 เหรียญ/บาร์เรล โดยต่างก็ยังปิดระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์นับตั้งแต่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยการปรับขึ้นเกือบ 2ของน้ำมันดิบ มาจากข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ปรับลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ที่ระดับ 4.7 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่แล้ว 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com