• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 21 กรกฎาคม 2560

    21 กรกฎาคม 2560 | Economic News


  
• ค่าเงินยูโรปรับขึ้น 0.3% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2015 บริเวณ 1.16650 ยูโร/ดอลลาร์ ท่ามกลางแรงเข้าซื้อจากบรรดานักลงทุน หลังถ้อยแถลงของประธาน ECB ที่ได้ส่งสัญญาณว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับต่ำในรอบ 11 เดือน ที่บริเวณ 93.994 จุด เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักส่วนใหญ่

• ดูเหมือนว่าในขณะนี้จะยังไม่มีปัจจัยใดๆมายุติการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ในขณะนี้ได้ หลังจากที่เมื่อวานนี้ นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี ส่งสัญญาณว่าจะหารือเรื่องการเริ่มต้นลดโปรแกรมการเข้าซื้อพันธบัตรในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ (ก.ย. –พ.ย.) ก็ส่งผลให้ค่าเงินยูโรกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง โดยถึงแม้ว่าถ้อยแถลงของประธานอีซีบีจะยังส่งสัญญาณผ่อนคลายาทงการเงินและยังไม่มีความชัดเจนใดๆ แต่ค่าเงินยูโรก็ปรับแข็งค่าขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์

• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศลงทุนร่วมกับบริษัทรายใหญ่อย่าง Merck และ Pfizer เพื่อผลิตบรรจุภันฑ์สำหรับยาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ เป็นจำนวนเงินกว่า 5 ร้อยล้านเหรียญ ภายใต้โครงการ Made in Americaเพื่อสนับสนุนฐานการผลิตในสหรัฐฯ และเพิ่มการจ้างงานในประเทศ

• นักวิเคราะห์ชี้ ท่ามกลางปัญหาที่คณะบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประสบในช่วงที่ผ่านมา เงินหยวนของจีน ซึ่งประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดรองลงมาจากสหรัฐฯ กลับได้รับผลประโยชน์เต็มๆนับตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม

Credit Suisse ได้กล่าวว่า หากดูจากกราฟค่าเงินเมื่อเงินหยวนแข็งค่าขึ้นมาในช่วงเดือนดังกล่าว นักลงทุนทั่วไปอาจคาดว่าเป็นเพราะมีบางอย่างเกิดขึ้นที่จีน ซึ่งความเป็นจริงแล้ว กลับตรงกันข้ามกัน โดยตลอดช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ากราฟค่าเงินทั้งสองนั้นวิ่งสวนทางกันโดยตลอด

ขณะที่นักวิเคราะห์จาก OANDA ชี้ ค่าเงินดอลลาร์มีโอกาสที่จะอ่อนค่าลงมาได้อีก หลังคณะกรรมชุดสืบสวนพิเศษของสภาคองเกรสมีความตั้งใจที่ขยายการสืบสวนความสัมพันธ์ระหว่างนายทรัมป์และรัสเซียลงสู่ธุรกิจของตระกูลทรัมป์อีกด้วย

• นายบิล กรอส ผู้เชี่ยวชาญด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตร กังวลว่าบรรดาธนาคารกลางต่างๆจะทำให้โลกเข้าสู่ภาวะถดถอย ดังนั้น เฟดและบรรดาธนาคารกลางรายอื่นๆ ควรใช้ความระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ผู้อำนวยการกองทุน The Janus Henderson กล่าวเตือนภาวะผันผวนของตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรในปีนี้ แม้ว่ากองทุนจะมีภาพรวมที่ดีก็ตาม

• บรรดานักเศรษฐศาสตร์จากรอยเตอร์สคาดการณ์ว่า ยอดใช้จ่ายภาคครัวเรือนของประเทศญี่ปุ่น เดือนมิถุนายน ที่จะเปิดเผยในสัปดาห์หน้าจะขยายตัวขึ้น 0.6% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2016 ขณะที่ยอดค้าปลีกก็ถูกคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้น 2.3% ติดต่อกัน 8 เดือนเช่นกัน ซึ่งหากเป็นไปตามที่คาด จะเป็นการส่งสัญญาณว่าอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นกำลังเริ่มฟื้นตัว

• นายทาโร่ อาโซะ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่น เผย รัฐบาลจะยังคงเป้าหมายยอดเกินดุล เดือนมีนาคม ปี 2021 แม้เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะเสียดุลการค้าไป 7.3 หมื่นล้านเหรียญ เมื่อเร็วๆนี้ก็ตาม

• ธนาคารกลางเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจเกาหลีเหนือเมื่อปีที่ผ่านมาขยายตัวอย่างรวดเร็วในรอบ 17 ปี แม้จะถูกคว่ำบาตรระหว่างประเทศเพื่อยับยั้งการพัฒนาหรือการดำเนินการด้านอาวุธนิวเคลียร์

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เมื่อปีที่ผ่านมาขยายตัวที่ระดับ 3.9% โดยได้รับแรงหนุนจากการทำเหมืองแร่และภาคพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดที่ระดับ 6.1% ในปี 1999 หลังเศรษฐกิจหดตัวลงเนื่องจากความแห้งแล้งและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง

• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ ก่อนหน้าการประชุมโอเปกในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบ Brent ยังคงทรงตัวอยู่ตำกว่าระดับ 50 เหรียญ/บาร์เรล

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 0.2% ที่ระดับ 49.40 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 0.2% เช่นเดียวกันที่ระดับ 46.99 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com