· ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 13 เดือน เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมืองสหรัฐฯที่ดูเหมือนจะสร้างแรงกดดันต่อความคาดหวังของเหล่านักลงทุนต่อการเร่งดำเนินการตามแผนปฏิรูปภาษีและกระตุ้นเศรษฐกิจของนายทรัมป์ ท่ามกลางทีมบริหารของนายทรัมป์ ที่ยังคงอยู่ภายใต้กระบวนการสืบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวกับกับรัสเซียในช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ผ่านมาหรือไม่ หลังรายงานล่าสุดระบุว่า นายฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาวประกาศลาออกจากต่ำแหน่ง จึงยิ่งตอกย้ำถึงความวุ่นวายภายในทีมบริหารของนายทรัมป์มากขึ้น
ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวแถวระดับ 93.854 จุดในเช้านี้ หลังจากที่ร่วงลงไปแตะระดับอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่มิ.ย. ปี 2016 บริเวณ 93.847 จุด
ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย 0.2% ในเช้านี้ บริเวณ 1.1681 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่คืนวันศุกร์แข็งค่าไปทำระดับสูงสุดในรอบ 23 เดือนบริเวณ 1.1683 ดอลลาร์/ยูโร โดยทิศทางของค่าเงินยูโรยังเป็นทิศทางแข็งค่า จากการที่ตลาดขานรับท่าทีคุมเข้มทางการเงินที่เพิ่มขึ้นของประธานอีซีบีในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ค่าเงินเยนปรับแข็งค่าลงมา 0.2% ในเช้านี้ บริเวณ 110.965 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งภาพรวมของค่าเงินเยนยังอยู่ในทิศทางแข็งค่ามาตลอดช่วง 5 สัปดาห์
· สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ คืนวันศุกร์ร่วงลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยได้รับผลกระทบจากการลดการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ เพื่อมาถือครองสินทรัพย์ปลอดดภัยอย่างตราสารหนี้แทน
· สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า พรรครีพับลิกันต้องการให้มีการลงมตินโยบายประกันสุขภาพฉบับใหม่กันในสภาคองเกรสภายในวันอังคารนี้ แม้จะยังคงมีความไม่มั่นใจว่านโยบายดังกล่าวจะผ่านมติหรือไม่ก็ตาม
· เมื่อวานนี้ทางทำเนียบขาว เผยว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีการเปิดเผยการลงนามกฎหมายคว่ำบาตรรัสเซีย หลังจากที่ทางวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯสามารถบรรลุข้อตกลงของร่างกฎหมายดังกล่าวในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พรรคเดโมแครต แห่งสภาคองเกรส กล่าวว่า พวกเขาเห็นด้วยกับทางพรรครีพับลิกันต่อข้อตกลงใหม่ในการคว่ำบาตรรัสเซีย อิหร่าน พร้อมเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ แต่ร่างกฎหมายดังกล่าวก็อาจจำกัดความพยายามของนายทรัมป์ ที่อาจยกระดับาตรการคว่ำบาตรแก่รัสเซีย จนกว่าสถานการณ์ในยูเครนจะสามารถแก้ไขได้อย่างเรียบร้อย
· นายเกร็ก คลาร์ก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงภาคธุรกิจอังกฤษ จะเปิดเผยแผนการลงทุนในภาคเทคโนโลยีแบตเตอรีจำนวน 246 ล้านปอนด์ในวันนี้ อันเป็นส่วนหนึ่งทางกลยุทธ์ด้านอุตสาหกรรมของรัฐบาลอังกฤษ เพื่อหนุนประสิทธิผลทางด้านการผลิตและกระจายความั่งคั่งให้กับประเทศ
· ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลงในคืนวันศุกร์ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าปริมาณน้ำมันดิบในกลุ่มโอเปกจะเพิ่มขึ้น จึงเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อราคาก่อนที่จะเข้าสู่การประชุมโอเปกและสมาชิกนอกโอเปกในวันนี้ ซึ่งอาจมีการปรับทบทวนมุมมองข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิต ที่จะหมดอายุในช่วงสิ้นเดือนมี.ค. ปีหน้า
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับตัวลง 1.15 เหรียญ หรือคิดเป็น -2.5% ที่ระดับ 45.77 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ลงไปทำระดับต่ำสุดบริเวณ 45.71 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านมาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงไปประมาณ 2.1%
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 1.24 เหรียญ หรือคิดเป็น -2.5% เช่นกัน ที่ระดับ 48.06 เหรียญ/บาร์เรล โดยภาพรวมสัปดาห์ที่แล้วร่วงลงไป 1.7% ซึ่งราคาน้ำมันดิบ Brent ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 เหรียญ/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบเดือนนับตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ก่อนที่จะอ่อนตัวต่อเพราะได้รับแรงกดดันจากการเทขายทำกำไรของนักลงทุน