· ราคาทองคำปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน จากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรปที่ตอบรับกับผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่มีการระมัดระวังการลงทุนก่อนทราบผลประชุมเฟดในคืนนี้ โดยสัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ปิด -0.2% ที่ระดับ 1,252.1 เหรียญ แม้จะอ่อนตัวลงแต่ก็ยังเคลื่อนไหวไม่ห่างจากระดับสูงสุดบริเวณ 1,258.79 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 23 มิ.ย.
อย่างไรก็ดี ตลาดไม่ได้คาดหวังว่าเฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวาระนี้แต่ตลาดมองหาสัญญาณการย้ำถึงกรอบเวลาหรือการดำเนินการต่อไปของเฟด
· กองทุน SPDR ยังคงเทขายทองคำอีก 9.17 ตัน โดยทำการเทขายติดต่อกัน 3 วันทำการ ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ800.45 ตัน ส่งผลให้ภาพรวมนับตั้งแต่ต้นเดือนนี้จนถึงปัจจุบันขายแล้วทั้งสิ้น 52.05 ตัน ซึ่งเป็นระดับการขายมากที่สุดในรอบปี
· นักวิเคราะห์จาก ETF Securities กล่าวว่า ตลาดกำลังมองหาความชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และเมื่อไหร่ที่เฟดจะเริ่มต้นลดวงเงินในพอร์ตฟอลิโอ
· เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group แสดงให้เห็นว่า ตลาดมองว่า มีโอกาส 48% ที่เฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ก่อนสิ้นปีนี้
· รองประธานจาก Heraeus Metal Management กล่าวว่า ผลประกาศดัชนีราคาบ้าน และอัชนีราคาขายบ้านของ S&P/Case-Shiller ที่ออกมาน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ บ่งชี้ว่าไม่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นสิ่งที่เฟดจับตาอยู่ และหากไม่เกิดเงินเฟ้อก็ยิ่งสร้างความไม่แน่นอนให้ก่ตลาดว่าเฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ได้หรือไม่
อย่างไรก็ดี การปราศจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจและแผนปฏิรูปภาษีของนายทรัมป์ และการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ ส่งผลให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำเพื่อเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเมือง
· สัญญาซิลเวอร์ปิด +0.6% ที่ระดับ 16.54 เหรียญ หลังจากที่ระหว่างวันขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 16.64 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่ 3 ก.ค. แต่ระดับสูงสุดก็ยังอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยราย 50 วันบริเวณ 16.65 เหรียญ